Monday, June 29, 2015

ผักเซียงดาผักพื้นบ้านภาคเหนือกับคุณค่าทางโภชนาการที่คาดไม่ถึง

ผักเซียงดาผักพื้นบ้านภาคเหนือกับคุณค่าทางโภชนาการที่คาดไม่ถึง


 เรามาพูดถึงผักพื้นบ้านของภาคเหนือของเรากันดีกว่า ผักแต่ละชนิดนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางสมุนไพรไทยอย่างไร เรามาทำความรู้จักกับผักชนิดหนึ่งซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักหรือเคยได้ยินมาก่อน คือ ผักเซียงดา เป็นผักพื้นบ้านของภาคเหนือ ใบสีเขียวเข้ม รสชาดหวานมันแบบที่ผักอื่นไม่มีทางสู้ได้
              คนทางเหนือจะคุ้นเคยกับผักชนิดนี้ดีว่าอร่อยแค่ไหน ผักเซียงดา เป็นไม้เถาเลื้อย ความยาวของเถาเลื้อยไปได้ไกลตามอายุของใไม้นั้น ลำต้นสีเขียว ทุกส่วนของต้นที่อยู่เหนือดินมียางสีขาว ขนาดของลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-5 ซมใบเป็นใบเดี่ยว สีเขียวเข้ม หน้าใบเรียบหรือมีคลื่นเล็กน้อยใบมีรูปกลมรี ปลายแหลม ฐานใบแหลม ก้านใบยาว 3.5 – 6 ซมใบกว้าง 9-11 ซมใบยาว 14.5 – 18.5 ซมไม่มีขน ใบออกจากข้อเรียงเป็นคู่ตรงข้ามกัน ผักเซียงดามักปลูกเรียงเป็นแผงตามริมรั้วบ้าน สามารถเด็กยอดมากินได้เกือบทุกสัปดาห์ ขึ้นง่ายยิ่งฝนตกมันจะขยันแตกยอด ยิ่งเก็บยิ่งแตกยอด เนื่องจากเป็นผักพื้นบ้านจึงปลูกทิ้งๆ ขว้างๆ ได้ ไม่ต้องใส่ปุ๋ย ไม่ต้องห่วงว่าจะมีแมลงไปกัดกิน
              ดังนั้นการกินผักเซียงดา โดยเฉพาะที่ปลูกเองจึงมั่นใจได้ว่าไม่มีสารพิษมาทำอันตรายเรา ผักเซียงดามีประโยชน์มากมาย โบราณเขาถือเป็นยาเย็นใช้เป็นยาลดไข้ อย่างเด็กเล็กๆ มีไข้สูง เขาจะเอาใบมาตำแล้วปิดกระหม่อมเด็ก ในสมัยใหม่ เรารู้ว่าใบที่มีสีเขียวปี๋ของมันมี เบตาแคโรทีนอยู่มาก จึงเป็นผักทีี่มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก ต่อมาเรารู้อีกว่า ใบผักเซึยงดา สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดในรายที่เป้นเบาหวานได้อย่างดี ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์พบว่าผักเซียงดาเป็นสารต้านอนุมูลอิสระฤทธิ์แรง มีดัชนีของสารแอนติออกซิแดนท์สูงมากถึง16.04
ผักเซียงดามีสารประกอบฟ๊นอลิค ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีสูงมาก ทั้งหมดนี้ทำให้ผักเซียงดามีบทบาทเป็นสารป้องกันและต้านมะเร็งได้ดี
              ทุกวันนี้ผักเซียงดาเป็นสินค้าส่งออกไปญี่ปุ่น เพระาคนญี่ปุ่นถนัดนักในการหาพืชผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาบริโภค บ้านเขาเป็นเกาะ ความหลากหลายทางชีวภาพมีน้อยกว่าบ้านเรา
             คิดแล้วน่าเสียดายที่คนญี่ปุ่นรู้คุณค่าของ "ผักเซียงดาแต่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักหน้าตาของมันและยังไม่รู้จะเอามาทำอะไรกินเลย

ขอบคุณข้อมูลจาก : eldercarethailand.com