อย่างที่ทราบกันดีประตูตู้เย็นใน
ปัจจุบันจะมีลักษณะเป็น ‘แม่เหล็ก’ เปิดปุ๊บ ปิดปั๊บ กักเก็บความเย็นได้ดี
แต่การที่ตู้เย็นปรับเปลี่ยนมาเป็นแบบ ‘แม่เหล็ก’ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
หรือเป็นแค่ความคิดเก๋ๆหรอกนะ
แต่เพราะมีผู้คนมากมายต้องสังเวยชีวิตให้กับตู้เย็นแบบเก่า
บ้าน่า ตู้เย็นทำคนตายได้ด้วยรึไง?
นี่คือคำถามที่คุณอาจสงสัย ซึ่งในอดีตตู้เย็นจะมีลักษณะประตูเป็นแบบ ‘กลอน’
คือสามารถเปิดได้จากภายนอกเท่านั้น และถ้าเมื่อไหร่มีคนเข้าไปติดข้างใน
ก็อาจถึงตายได้
แล้วใครมันจะบ้าเข้าไปติดแหงกอยู่ในตู้
เย็น? รายงานในช่วงปี 1956 เดือนสิงหาคมจะทำให้คุณสยอง
เนื่องจากสถิติระบุว่ามี ‘เด็ก’ จำนวนมากที่ตายเพราะขาดอากาศหายใจในตู้เย็น
เรียกว่าตายคาตู้ถูกแช่แข็งเลยก็ได้ ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น
เนื่องจากเด็กวัย 3-5
ขวบชอบเล่นซ่อนแอบและความไร้เดียงสาก็พัดพาให้พวกเขาพากันไปขังตัวเองในตู้
เย็น ก่อนจะกลายเป็นการถูกขังอย่างไม่ได้ตั้งใจ
พ่อแม่บางคนเผลอมาล็อกกลอนตู้เย็นไม่รู้ตัว
ที่น่าเศร้ามากคือตู้เย็นมีระบบเก็บ
ความเย็นแน่นหนา
และนั่นทำให้เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือของเด็กส่งไปไม่ถึงภายนอก
และสุดท้ายก็ต้องเสียชีวิตท่ามกลางความหนาวเหน็บ
ซึ่งนั่นนับเป็นโศกนาฏกรรมที่สะเทือนใจใครหลายคน
ภายหลังนักวิจัยได้ลงมาตรวจสอบประเด็น
ดังกล่าวอย่างจริงจัง พวกเขาลองทดลองเพื่อตรวจสอบว่าเด็ก 3-5 ขวบ
มีปฏิกิริยาอย่างไรหากติดแหงกอยู่ในตู้เย็นผลปรากฏว่าเด็ก 3
ขวบมีแรงผลักเพียง 10 ปอนด์เท่านั้น ในขณะที่เด็ก 5 ขวบมีแรงผลักอยู่ที่ 21
ปอนด์
และเรี่ยวแรงอันเล็กน้อยนั้นทำให้ยิ่งไม่สามารถผลักประตูตู้เย็นออกมาได้
ผลวิจัยที่น่าตกใจนั้นทำให้รัฐบาลพากัน
ออกกฏหมายเพื่อปฏิวัติวงการตู้เย็นกันขนานใหญ่
และนั่นทำให้ประตูตู้เย็นที่เคยเป็นแบบกลอน
ถูกผลักดันให้เป็นแบบแม่เหล็กอย่างทุกวันนี้ ตลอดจนปรับโครงสร้าง
ซึ่งกว่าที่โศกนาฏกรรมความตายในตู้เย็นจะยุติ
กว่าที่ตู้เย็นจะมีหน้าตาแบบทีเราเห็นทุกวันนี้
ก็มีเด็กจำนวนมากที่ต้องสังเวยชีวิต
ที่มา: Buzzfeed