ประโยชน์ของมะนาวนั้นมีมากมายไม่แพ้รสชาติที่เปรี้ยวปรี๊ด จี๊ดจ๊าด
ซึ่งอยู่คู่คนไทยมานับตั้งแต่โบราณ
เชื่อว่าหลาย
ๆ คนคงจะชอบทานรสเปรี้ยวอย่างแน่นอน ซึ่งรสชาติเปรี้ยวเหล่านั้นก็มาจาก หลาย ๆ
ที่มา เช่น มะขามเปียก มะกรูด กรดมะนาว น้ำส้มสายชู เป็นต้น
แต่คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่ารสชาติเปรี้ยวที่โดนใจคนไทยมากที่สุดนั้นก็คือรสชาติเปรี้ยวจากมะนาว
ซึ่งนอกจากมะนาวจะให้รสชาติที่โดนใจคนมากมายแล้ว เจ้ามะนาวลูกกลม ๆ
นี้ยังมีสรรพคุณทางยาและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
วันนี้กระปุกดอทคอมจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับมะนาวให้มากขึ้นกันนะคะ
มะนาวและความเป็นมา
มะนาว
มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Lime และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Citrus
Aurantifolia Swingle หรือ Citrus Aurantifolia Swing เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดอยู่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นผู้ที่เรียนรู้การใช้มะนาวเป็นอย่างดีรวมทั้งประเทศไทยด้วย
มะนาวเป็นพืชที่ออกผลตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าแล้งจะออกผลน้อยกว่าปกติ
มะนาวเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้กับประเทศได้มากมายในแต่ละปี เพราะมะนาวนั้นสามารถนำไปปรุงอาหารได้มากมายและยังสามารถนำมาเป็นเครื่องดื่ม
หรือนำไปเป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมะนาว
มะนาวมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม
สูง 2-4 เมตร กิ่งอ่อนมีหนามแหลม เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาลปนเทา
มีใบย่อยใบเดียว ลักษณะใบเป็นรูปไข่หรือรูปรียาว กว้าง 3-5 ซม. และยาว 4-8
ซม.
ปลายใบแหลม โคนใบมน มีปีกแคบ ๆ ขอบใบหยัก แผ่นใบมีต่อมน้ำมันกระจายอยู่ตามผิวใบ
ออกดอกเป็นช่อสั้น 5-7 ดอก หรือออกดอกเดี่ยวตามซอกใบ ดอกมีสีขาว กลีบดอกมี 4-5 กลีบ
หลุดร่วงง่าย ผลมีรูปทรงกลม ผิวเรียบเกลี้ยง ผลอ่อนสีเขียวเข้ม พอแก่เป็นสีเหลือง
มีรสเปรี้ยว เมล็ดกลมรี สีขาว มี 10-15 เมล็ด
มะนาว
สรรพคุณอันน่าอัศจรรย์
รู้หรือไม่ว่ามะนาวถือเป็นยาอายุวัฒนะชนิดหนึ่ง เพราะมะนาวเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์แทบทุกส่วน
ไม่ว่าจะเป็นราก ใบ ดอก เมล็ด เปลือกของผลมะนาว หรือแม้แต่น้ำมะนาว
ต่างก็มีสรรพคุณทางยามากมายจนน่าอัศจรรย์ นอกจากนี้ยังช่วยดูแลผิวพรรณให้ผุดผ่อง
ใช้ทำความสะอาดเครื่องเรือนและ แถมยังช่วยเจริญอาหารอีกด้วย
มะนาวกับสรรพคุณทางยา
มะนาวถือเป็นพืชที่ดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง
เพราะมะนาวมีส่วนช่วยในรักษาโรคและอาการต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น
ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ
ช่วยแก้อาเจียนอันเนื่องมาจากความผิดปกติของธาตุในร่างกาย รักษาอาการลมเงียบ
รักษาอาการตาแดง ช่วยบรรเทาอาการไข้
นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีสูง ช่วยในการรักษาอาการเลือดออกตามไรฟันหรือโรคลักปิดลักเปิด
ช่วยบรรเทาอาการไอและขับเสมหะ บรรเทาอาการต่อมทอนซิลอักเสบ ลดอาการเหงือกบวม
เพราะมีวิตามินซีสูง มะนาวยังช่วยขับพยาธิและรักษาอาการท้องผูก ท้องอืด ปวดท้อง
ท้องแน่น ท้องเฟ้อ รักษาอาการอาการโรคกระเพาะ ท้องร่วง แก้อาการบิด
รักษาอาการปัสสาวะกระปริบกระปรอยหรือขัดเบา
ช่วยฟอกและบำรุงโลหิตรักษาอาการโลหิตจาง แก้โรคเหน็บชา
และยังช่วยรักษาอาการปวดข้อได้
มะนาวเป็นพืชที่มีกรดซึ่งดีต่อร่างกายอยู่เป็นส่วนประกอบ ภายในน้ำมะนาวนั้นมี
กรดซิตริค (Citric Acid) กรดมาลิค (Malic Acid) และกรดแอสคอร์บิก
(Ascorbic Acid) ซึ่ง
กรดซิตริคนั้นช่วยในการขจัดแคลเซียมที่สะสมอยู่ในหลอดเลือดแดง ตับอ่อน
และช่วยในการสลายนิ่วในไต้ได้
และยังช่วยในการขจัดล้างสารพิษโดยการกระตุ้นด้วยเอนไซม์ธรรมชาติ ซึ่งช่วยบำรุงให้ผิวพรรณดีขึ้น
มะนาวนั้นอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์
ซึ่งสารฟลาโวนอยด์นั้น ไม่เพียงแต่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินซี
แต่ยังช่วยในการควมคุมระบบความดันโลหิตและช่วยลดอาการอักเสบได้อีกด้วย
นอกจากนี้ในมะนาวยังมีสารลิโมนอยด์และโมดิฟายด์ ซิตรัส เพคติน
ซึ่งปรากฎในการศึกษาครั้งล่าสุดว่าช่วยในการหยุดยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง,
ชะลอการเจริญเติบโตและทำให้เซลล์มะเร็งนั้นตายในที่สุด
ซึ่งถือว่าช่วยในการรักษามะเร็งได้ส่วนหนึ่งด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของมะนาว
ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรฯ ของสหรัฐอเมริกา (USDA) ระบุว่า ในมะนาวดิบ 1 ผล ปริมาณ 100 กรัม
มีคุณค่าทางโภชนาการที่สำคัญ ดังนี้
- น้ำ 88.26
กรัม
- พลังงาน 30
แคลอรี่
- โปรตีน 0.70
กรัม
- ไขมัน 0.20
กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 10.54
กรัม
- ไฟเบอร์ 2.8
กรัม
- น้ำตาล 1.69
กรัม
- แคลเซียม 33
มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 6
มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 18
มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 102
มิลลิกรัม
- โซเดียม 2
มิลลิกรัม
- วิตามินซี 29.1
มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 50
IU
มะนาวกับการลดความอ้วน
เชื่อหรือไม่ว่า มะนาวสามารถช่วยในการลดความอ้วนได้ เพราะมะนาวมีกรดต่าง
ๆ ซึ่งช่วยในการสลายไขมัน นอกจากนี้มะนาวยังมีวิตามินซีสูง
เมื่อได้รับเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะก็จะทำให้ไขมันในร่างกายลดลง
ระดับไตรกลีเซอไรด์จะเป็นปกติ ไขมันเลวจะลดลงและช่วยให้ไขมันดีเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สูตรน้ำมะนาวลดความอ้วน
ส่วนผสม มะนาว 1
ผล,
น้ำตาลทรายแดง
หรือน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา, เกลือป่นปลายช้อนชา, น้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิปกติ 1 แก้ว
วิธีทำ ชงน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายแดงกับเกลือในน้ำอุ่นจนละลาย
ทิ้งไว้สักครู่ให้น้ำอุณหภูมิปรกติ แล้วบีบน้ำมะนาว 1 ผล
เพราะหากน้ำยังร้อน ความร้อนก็จะทำลายวิตามินซีในมะนาว คนแล้วรีบดื่มให้หมด
ควรดื่มก่อนนอนสัก 15-20 นาที
การดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนนั้นจะทำให้ร่างกายจะได้วิตามินซี
แม้มะนาวว่าจะมีกรดซิตริก กรดมาลิค
แต่เมื่อผ่านกระบวนการย่อยของร่างกายจะแปรสภาพเป็นด่างที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ถ้าดื่มทุกวันเป็นประจำ ร่างกายจะแข็งแรงสุขภาพโดยรวมจะดีขึ้น ไม่เป็นหวัดง่าย
กระดูกแข็งแรง และทำให้ผอมลงอีกด้วย
มะนาวกับความงาม
มะนาวถูกใช้ในการรักษาผิวพรรณมานานตั้งแต่สมัยโบราณ
นอกจากจะใช้เพื่อบำรุงผิวพรรณแล้ว ยังช่วยในการรักษาโรคผิวหนังบางชนิดอีกด้วย
เพราะมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสาเหตุของริ้วรอยและช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึงดูอ่อนเยาว์กว่าวัยค่ะ
สิวหายเกลี้ยงด้วยมะนาว
ส่วนผสม มะนาว 1
ช้อนชา,
ไข่ขาว
1 ช้อนชา
วิธีทำ นำไข่ขาวผสมกับน้ำมะนาวแล้วตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน
จากนั้นแต้มลงที่บริเวณตุ่มสิวทิ้งไว้ 30 นาที ล้างออกด้วยโฟมหรือเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยน
เล็บสวยด้วยน้ำมะนาว
น้ำมะนาวสามารถใช้ในการบำรุงเล็บเพื่อให้เล็บเราสวยและแข็งแรงได้
โดยการฝานมะนาวพร้อมเปลือกออกเป็นซีก ๆ แล้วเอามาขัด ๆ ถู ๆ
ตามเล็บมือเล็บเท้าเพื่อเป็นการทำความสะอาด โดยถูไปตั้งแต่ผิวเล็บ
ตลอดจนทุกซอกทุกมุมของเล็บ สูตรนี้สามารถทำได้บ่อย ๆ เพราะเล็บเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว
ดังนั้นจะไม่มีอาการแพ้แน่นอน ใครที่อยากมีเล็บสวย ๆ ก็ลองเอาไปทำได้นะคะ
ผมนุ่มสลวยไร้รังแคด้วยมะนาว
ส่วนผสม น้ำมะนาวว 8
ช้อนโต๊ะ,
น้ำเปล่า
1/2 ถ้วย
วิธีทำ นำน้ำมะนาวผสมกับน้ำเปล่า
แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นนวดลงบนศีรษะตั้งแต่หนังศีรษะจนถึงปลายผม ทิ้งเอาไว้ 2-3
ชั่วโมง
แล้วล้างออก จะช่วยล้างรังแคเหนียว ๆ ที่ติดอยู่บนหนังศีรษะออกได้
และทำให้ผมนุ่มสลวยอีกด้วย
พอกผิวกายด้วยน้ำมะนาว
ส่วนผสม มะนาว 1
ผล,
ดินสอพอง
5 - 6 เม็ด
วิธีทำ นำดินสอพองที่เตรียมไว้มาบดให้ละเอียด
แล้วบีบน้ำมะนาวลงในภาชนะที่ใส่ดินสอพองบด แต่ควรระวังอย่าให้เหลวจนเกินไป
ล้างร่างกายให้สะอาด แล้วเช็ดตัวให้พอหมาด ๆ จากนั้นนำดินสอพองที่ผสมเอาไว้พอกลงตามร่างกายให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ประมาณ
15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง
ผิวสวยใสได้ด้วยมะนาว
ส่วนผสม มะนาว 1
ช้อนชา,
น้ำมันมะกอก
1 ช้อนชา, เกลือ ½ ช้อนชา
วิธีทำ นำเกลือมาผสมกับน้ำมันมะกอก
ให้พอหนืด ๆ แล้วเติมน้ำมะนาวลงไปให้พอเข้มข้น คนให้เข้ากัน แล้วนำมาสครับผิว
เกลือจะทำหน้าที่ลอกผิวหนังที่ตายแล้วและทำความสะอาดผิวได้เป็นอย่างดี
ส่วนน้ำมะกอกทำให้ผิวเกิดความชุ่มชื่น และน้ำมะนาวจะช่วยผิวกระจ่างใสขึ้น
แต่ไม่ควรผสมมะนาวเยอะเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเพราะฤทธิ์มะนาวที่เป็นกรดได้
นอกจากนี้ มะนาวยังช่วยกำจัดผิวมันได้อีกด้วยเพียงนำก้านสำลีชุบกับน้ำมะนาวเช็ดให้ทั่วใบหน้าก่อนนอน
จากนั้นทิ้งเอาไว้ 1 คืน แล้วล้างออกในตอนเช้า ก็จะช่วยทำให้ผิวไม่มันค่ะ
ฟันขาวสวยด้วยมะนาว
การฟอกฟันขาวโดยทั่วไปนั้นราคาแพงมาก
แต่เราสามารถฟันขาวได้โดยไม่ต้องเสียเงินมากมายเพียงแค่ใช้มะนาว
โดยใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำมะนาวจนเกิดเป็นฟอง ใช้คอตตอนบัดจุ่มลงไปในที่เตรียมไว้แล้วนึกมาเช็ดบริเวณซี่ฟัน
ทิ้งไว้เอาไม่เกิน 1 นาที หากทิ้งไว้นานกว่านั้นจะทำให้ฟันเสียหายได้
เสร็จแล้วขัดออกด้วยยาสีฟัน ก็จะได้ฟันที่ขาวสะอาดโดยไม่ต้องเสียเงินแพง ๆ เลยค่ะ
ประโยชน์ของมะนาวด้านอื่น
ๆ
นอกจากมะนาวจะช่วยในการบำรุงความงามและช่วยในการลดน้ำหนักแล้ว
มะนาวยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
- ป้องกันภัยจากงู ด้วยการใช้เปลือกวางไว้บริเวณใกล้ที่นอน ๆ งูจะไม่มารบกวนเพราะได้กลิ่นมะนาว
- ช่วยให้หุงข้าวมีสีขาวและอร่อยขึ้น
ด้วยการนำน้ำมะนาวประมาณ 2-3 ช้อนแล้วนำไปซาวข้าว
- ช่วยให้ไข่เจียวฟูและนิ่ม
- ช่วยลดกลิ่นคาวจากปลาเมื่อทำอาหาร และทำให้ปลาคงรูปไม่เละ
- ช่วยให้ไข่เจียวฟูและนิ่ม
- ช่วยลดกลิ่นคาวจากปลาเมื่อทำอาหาร และทำให้ปลาคงรูปไม่เละ
- ใช้ในการล้างยางจากปลีกล้วยได้
- ช่วยให้กล้วยหักมุมเชื่อมให้น่ารับประทาน
ด้วยการบีบมะนาวลงไปครึ่งซีก ในขณะที่น้ำเชื่อมกำลังเดือด
- ช่วยป้องกันมอดในถังข้าวสารได้
- เปลือกมะนาวสามารถนำมาใช้ในการทำความสะอาดเครื่องเงิน
เครื่องทองเหลือง และเครื่องทองแดงได้
น้ำมะนาวกับสรรพคุณน่ารู้
น้ำมะนาวนอกจากจะใช้ในการปรุงอาหารและผสมในเครื่องดื่มแล้ว น้ำมะนาวยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงสุขภาพต่าง ๆ อีกด้วย
สูตรล้างพิษด้วย
น้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว
ส่วนผสม น้ำดื่ม 2 ลิตร, มะนาว 4 ลูก, เกลือป่น 2 ช้อนชา (ห้ามใช้เกลือไอโอดีน)
ส่วนผสม น้ำดื่ม 2 ลิตร, มะนาว 4 ลูก, เกลือป่น 2 ช้อนชา (ห้ามใช้เกลือไอโอดีน)
วิธีทำ ผสมน้ำดื่มกับน้ำมะนาวและเกลือ แล้วค่อย ๆ ดื่มไปเรื่อย ๆ โดยมะนาวจะไปกระตุ้นให้ลำไส้ทำงาน ส่วนเกลือก็จะช่วยอุ้มน้ำไว้ไม่ให้ถูกร่างกายดูดซึมไปหมด และหลังจากดื่มน้ำมะนาวประมาณ 10-20 นาที จะเกิดอาการถ่ายท้อง เมื่อถ่ายท้องเสร็จแล้วสามารถทานอาหารได้ตามปกติ ควรทำอย่างน้อยเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จะทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น และสามารถช่วยในการลดน้ำหนักอีกด้วย
สูตร น้ำผึ้งผสมมะนาว
น้ำผึ้งผสมมะนาวมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงสุขภาพมากมาย ทั้งการช่วยบำรุงร่างกายสำหรับผู้ป่วยในระยะพักฟื้นและผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลีย การรักษาอาการเจ็บคอ หรือแม้แต่การรักษาแผลในกระเพาะอาหารอีกด้วย
ส่วนผสม น้ำผึ้ง 1/3 ถ้วย, น้ำอุ่นสำหรับละลาย น้ำผึ้ง 1/3 ถ้วย, น้ำมะนาวคั้น 1/3 ถ้วย, น้ำเย็นจัด สำหรับผสม 2 ถ้วย
วิธีทำ นำน้ำมะนาวผสมกับน้ำผึ้งและน้ำอุ่นให้เข้ากัน แล้วนำไปผสมกับน้ำเย็นจัด จากนั้นอาจจะใส่น้ำแข็งเพิ่มหรือแช่ตู้เย็นเก็บไว้ดื่ม สามารถดื่มได้เรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน
น้ำผึ้งผสมมะนาวมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงสุขภาพมากมาย ทั้งการช่วยบำรุงร่างกายสำหรับผู้ป่วยในระยะพักฟื้นและผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลีย การรักษาอาการเจ็บคอ หรือแม้แต่การรักษาแผลในกระเพาะอาหารอีกด้วย
ส่วนผสม น้ำผึ้ง 1/3 ถ้วย, น้ำอุ่นสำหรับละลาย น้ำผึ้ง 1/3 ถ้วย, น้ำมะนาวคั้น 1/3 ถ้วย, น้ำเย็นจัด สำหรับผสม 2 ถ้วย
วิธีทำ นำน้ำมะนาวผสมกับน้ำผึ้งและน้ำอุ่นให้เข้ากัน แล้วนำไปผสมกับน้ำเย็นจัด จากนั้นอาจจะใส่น้ำแข็งเพิ่มหรือแช่ตู้เย็นเก็บไว้ดื่ม สามารถดื่มได้เรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน
ความเชื่อผิด
ๆ กับมะนาวโซดา รักษามะเร็ง ไม่ได้นะจ๊ะ
มีความเชื่อว่าน้ำมะนาวผสมโซดานั้นสามารถช่วยรักษาโรคมะเร็งได้
ซึ่ง นายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุวัฒนะนานาชาติ
ได้เปิดเผยว่า ยังไม่มีผลการวิจัยได้ ๆ พิสูจน์ว่า น้ำมะนาวผสมโซดานั้นสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ เพียงแต่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะจากเซลล์มะเร็งได้แต่ไม่เหมือนกับเคมีบำบัด
พบเพียงคุณสมบัติในการล้างพิษและดีท็อกซ์เท่านั้น
นอกจากนี้น้ำมะนาวโซดายังไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ
กรดไหลย้อน เพราะอาจทำให้ระคายเคืองทางเดินอาหาร และไม่ควรดื่มขณะท้องว่าง
หรือทุกมื้อ ทุกวัน แต่ควรดื่มเป็นครั้งคราวเท่านั้น
มะนาวเป็นพืชที่มีประโยชน์มากมาย
ทั้งรักษาโรค บำรุงความงาม นอกจากนี้ยังหาได้ง่ายตามท้องตลาด
แต่ก็ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ และควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมะนาวในผู้ที่เป็นโรคกระเพาะและกรดไหลย้อน
เพราะมะนาวก็มีกรดที่เมื่อใช้ในปริมาณมากเกินไปอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้น
เพื่อสุขภาพที่ดีก็ควรใช้อย่างพอดีนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://health.kapook.com/