มาดู 14 บ้านผีสิงห์"ที่น่ากลัวที่สุดโคตรหลอน"ใจไม่ถึงนอนซะ
1. The Facade
14 บ้านผีสิงน่ากลัวที่สุดในโลก ที่วัยรุ่นต้องลอง?ตัว
อาคาร ตกแต่งเป็นแบบบ้านสองชั้น สร้างด้วยอิฐแดง
ตกแต่งด้วยเหล็กดัดแบบโบราณ ทำให้เก่าโดยเป็นสนิมเขียว
อย่างสวยงามแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว แต่ส่วนตัวอาคารนี้เป็นเพียงอาคารหลอกๆ
ให้ดูสวยงามและน่ากลัว แต่ส่วนที่เป็นบ้านผีสิงจริงๆนั้น
จะเป็นอาคารคล้ายสตูดิโอ ซ่อนอยู่ด้านหลัง?ด้านหน้าบ้านผีสิง
ที่ออกแบบเน้นเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยบางอย่าง และที่สำคัญคือป้ายคำว่า ”
Haunted Mansion ” อันนี้คือโลโก้ของเขาเลย
เป็นพื้นที่สำหรับรอคิวเรียกเข้าบ้านผีสิง?เนื่องจากภายในบ้านผีสิงจะต้อง
นั่งรถชม จึงจำกัดนักท่องเที่ยวเนื่องจากในบางครั้งปริมาณรถไม่เพียงพอ
ภายในตกแต่งได้ร่มรื่นสยอง เนื่องจากตกแต่งเป็นแบบสุสาน?ในส่วนบริเวณรอคิว
เพื่อเข้าไปในบ้านผีสิง จะตกแต่งด้วยป้ายหลุมศพ
จำนวนมากเพื่อสร้างความรู้สึกสพึงก่อนเริ่มเข้าสู่บ้านผีสิง
รูปขวาสุดคือรูปหนุ่มรูปงามที่จะค่อยกลายร่างเป็นโครงกระดูก
3. Foyer
14 บ้านผีสิงน่ากลัวที่สุดในโลก ที่วัยรุ่นต้องลอง?โถงหน้าบ้าน
เมื่อผ่านส่วนรอคิวเข้ามาแล้ว ก็จะพบส่วนประตูทางเข้าบ้านผีสิง
คุณจะพบประตูเข้าไปสู่ห้องโถง ( Foyer ) ภายในห้องโถงมีแสงสลัวๆ
จากแสงสว่างจากโคมระย้าคริสตัล แชนเดอเลียร์ ( Crystal chandelier )
และเชิงเทียน โดยเปลวเทียนสั่นไหวไปคล้ายต้องสายลม
และการตกแต่งภายในเป็นแบบกอธิค ( Gothic
เป็นสถาปัตยกรรมที่นิยมในยุโรปช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-15 )
กับกลิ่นอายแห่งความตาย กับเสียงต้อนรับว่า ” ยินดีต้อนรับ
เหล่ามนุยษ์ผู้โง่เขลา….. เข้าสู่บ้านผีสิงแห่งนี้ ( Welcome, foolish
mortals… to the Haunted Mansion! ) ”
และเมื่อมองตรงเข้าไปจะพบรู้ภาพชายหมุ่มรูปงามติดอยู่ที่ผนัง แต่เขาก็จะเริ่มแก่ตัวลงอย่างรวดเร็วจนเหลือแต่โครงกระดูก
และเมื่อมองตรงเข้าไปจะพบรู้ภาพชายหมุ่มรูปงามติดอยู่ที่ผนัง แต่เขาก็จะเริ่มแก่ตัวลงอย่างรวดเร็วจนเหลือแต่โครงกระดูก
4. Hallway
14 บ้านผีสิงน่ากลัวที่สุดในโลก ที่วัยรุ่นต้องลอง?โถงทางเดิน
เป็นทางเดินยาว
บนผนังมีหน้าต่างที่ทำเทคนิคพิเศษว่าภายนอกกำลังเกิดฝนฟ้าคนองอย่างหนัก
มีสายฟ้าผ่า และมีฟ้าแลบ ฟ้าร้องดังอยู่ในโถงทางเดินตลอด
เท่านั้นยังไม่พอบนฝาผนังจะประดับประดาไปด้วยภาพเขียนมากมาย
แต่เมื่อเกิดฟ้าแลบขึ้นรูปภาพเหล่านั้นจะปรากฏเป็นผีร้าย
เมื่อต้องแสงรูปเขียนจะเปลี่ยนเป็นปีศาจเมื่อเกิดผ้าแลบ
ส่วนรูปปั้นที่เห็นอยู่ไกลๆ จะให้เทคนิคพิเศษเล่นกับนักท่องเที่ยว
รูปปั้นที่เห็นอยู่ตามโถงทางเดินจะใช้เทคนิคลวงตา โดยเมื่อเกิดฝ้าแลบเข้ามาภายใน จากต่างทิศกันจะเหมือนรูปปั้นหันหน้าไปมา ทั้งที่แท้จริงรูปปั้นไม่มีการเคลื่อนไหวใด แต่เกิดจากเทคนิคการปั้นสุดยอด ให้เกิดเหลี่ยมุม ความตื้นลึกที่ผิดธรรมชาติ ที่ทำให้เกิดมิติบนพื้นผิวอย่างประหลาด
5. Loading Doom Buggies
บริเวณสถานีขึ้นรถ ดูมบักกี้ซึ่งระยะช่วงต่อไปทั้งหมดจะต้องใช้
รถดูมบัึกกี้ ในการเที่ยวชม
มันจะลากคุณดำดิ่งสู่ขุมนรกแห่งความตื่นเต้น?ข้อมูลเฉพาะรถ ดูมบักกี้
- รถดูมบักกี้ ทีจำนวน 160 คัน
- สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วประมาณ 0.6 เมตร / วินาที
- รถดูมบักกี้ออกแบบมาเป็นรูปทรง เปลือกหอย ( Clamshell ) ทาสีดำ
- สามารถนั่งได้สูงสุด 3 คน/คัน
- ภายในมีการติดตั้งระบบเสียงสเตอริโอ ตัวรับสัญญาณ เพื่อสร้างเสียง เพื่อส่งเสียงเอ็ฟแฟ็คต่างๆ
- สามารถวิ่งกระตุกเดินหน้า กระตุกถอยหลัง หมุน 360 องศา เพื่อสร้างบรรยกาศพลึง ต่างๆตามแต่โอกาศ
บริเวณสถานีขึ้นรถราง ดูมบักกี้ จะเห็นรถดูมบักกี้จอดรอรับนักท่องเที่ยวอยู่เรียงราย คล้าย จะเป็นขบวน?รถไฟ?สู่ขุมนรก
6. Ghostly Library
หลังจากขึ้นรถดูม
บักกี้ มันจะนำคุณเข้าสู่พื้นที่ที่เรียกว่า หอสมุดผีสิง ( Ghostly Library
) โดยแต่งเป็นหอสมุด ที่มีชั้นวางหนังสือทำจากไม้สีเข้ม
ภายในชั้นมีหนังสือวางอยู่เต็ม สลับกับรูปปั้น 3 ตัว
เมื่อรถดูมบักกี้แล่นผ่าน หนังสือภายในชั้น
จะคล้ายกับมีมือที่มองไม่เห็นดึงออกบ้าง เข้าบ้าง
หนังสือที่ตกอยู่ที่พื้นก็จะเริ่มเคลื่อนไหวคล้ายกับมีชีวิต
รูปปั้นที่สงบนิ่ง ก็เหมือนกับจ้องมองอย่างไม่วางตา?บรรยากาศภายในห้องสมุดผีสิง
7. Staircases Endless
เมื่อผ่านหอสมุดผีสิง จะเข้าสู่พื้นที่ บันไดไว้สิ้นสุด
จะสร้างเป็นบันได้จำนวนมาก สลับซับซ้อนกันไปมา
เป็นเขาวงกต?ไว้ซึ่งจุดสิ้นสุด
บ้างก็กลับหัวทำให้คิดว่ามนุษย์คนใดจะสามารถใช้บันใดนี้ได้
นอกจากผ..ผ.ผีเท่านั้นที่จะสามารถเดินผ่านบันไดนี้ได้
บันไดมากมายที่มุ่งสู่ประตูแปลก บ้างก็กลับหัวกลับหาง พุ่งสู่เพดานชวนให้คิดว่าจะมีมนุษย์คนใดใช้บันไดนี้นอกจาก ……
8. Conservatory
เมื่อผ่านพื้นที่ บันไดไว้สิ้นสุด( Staircases Endless ) ทางวอล์ท ดีสนีย์(
Walt Disney ) ได้นำเทคนิคการเปลี่ยนฉากที่ชาญฉลาดอย่างยิ่งมาใช้ คือ
ให้รถบูมบักกี้วิ่งผ่านป่าทึบที่มีต้นไม้จำนวนมากบดบังสายตา
และเมื่อใกล้พ้นชายป่า จะมีแสงสว่างวาบขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทำให้เกิดการตาดับชั่วคราว เมื่อสายเริ่มชินกับความมืดซักพัก
ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือ คุณได้เข้ามาอยูในเรือนกระจก
ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด กับหีบใบใหญ่ คุณถูกนำเข้าสู่พื้นที่
เรือนเพาำะชำต้องสาป ( Conservatory ) ภายในตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ประหลาด
ชวนขนลุก บริวเวณก็กลางเรือนเพาะชำมีหีบขนาดใหญ่วางอยู่
ด้านบนมีเชิงเทียนวางอยู่คู่หนึ่ง มันคือหีบอะไร??ชั่วอึกใจคำถามก็มีคำตอบ
หีบเกิดการสั่นอย่างรุนแรง กึกกักๆ คืนนน..
พวกเจ้าบังอาจรบกวนการหลับไหลของข้า พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย
9. The Corridor of Doors
ระเบียงประตูผี?คือส่วนต่อมาที่นักท่องเที่ยวจะได้พบ
มันเป็นระเบียงทางเดินแคบ ที่มีประตูห้องอยู่เบื้องหน้าสุดลูกหูลูกตา
กับผนังสีม่วงหม่น ลวดลายสีดำ และดวงตานับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองคุณอยู่
กับการตกแต่งสุดสยอง กับเหตุการณ์ประหลาด รูปภาพมากมายติดอยู่บนผนัง
หรือภูตผีเหล่านี้คือเจ้าของบ้านผีสิง แห่งนี้กัน
เมื่อผ่านหน้าประตูมือจับลูกบิดประตูก็ขยับไปมาเหมือนมีใครกำลังจะออกมา
ต้อนรับคุณ?ก็อก……..ก็อก…..ก็อก..ก็อก. เสียงเคาะประตู ดังขึ้นๆ ถี่ขึ้นๆ
ยิ่งใกล้ประตูบานหนึ่ง พลันเมื่อผ่านหน้าประตูบานต้นเสียง
ฉับพลันนั้นรถดูมบักกี้คู่ใจที่เรานั่งมากับหยุดลงดื้อๆ
พร้อมทั้งค่อยๆหันเข้าหาประตูบานนั้น เสียงเปิดประตูดัง แอ็ด…..ยาววววววว
แต่เดชะบุญเจ้ารถดูมบักกี้ก็พื้นคืนพลังพาคุณหนีออกมาทันเวลาพอดี ( รูปขวา )
10. The Seance Circle
หลังจากหนีออกมาจากระเบียงประตูผี
ได้ในเสี้ยววินาทีสุดท้ายเข้าไปแอบอยู่ภายใน ห้องประชุมทรงกลม ( The Seance
Circle )
เป็นห้องทรงกลมแต่สิ่งที่เห็นเด่นที่สุดภายในห้องนี้คือโต๊ะทรงกลม
ตรงกลางมีลูกแก้วพยากรณ์วางอยู่กลางโต๊ะ โดยรอบมีไพ่ทาโร่วางอยู่โดยรอบ
และเมื่อมองลึกเข้าไปในลูกแก้วพยากรณ์กลับพบว่ามัมมีบางสิ่งที่ไม่ปกติ
ภายในลูกแก้วพยากรณ์มีหัวของ มาดามลีโอทา ( Madame Leota ) อยู่ภายใน
ถึงจะมีแต่ศรีษะนั้นเหมือนมีชีวิต
ไม่นานนักเธอก็เริ่มท่องร่ายคาถามนต์ดำ?คำสาป?และด้วยอำนาจแห่งมนต์ตราลูก
แก้วก็เริ่มลอยไปมา แต่มาดามลีโอทาก็ยังคงท่องมนต์อยู่ (
ด้วยเทคนิคสร้างภาพเสมือนจริง ( Holograms )
ฉายภาพเข้าสู่ลูกแ้ก้วที่ลอยไปมา )
11. The Grand Hall
หลังจากออกมาจากห้องประชุมทรงกลม ( The Seance Circle ) ก็มุ่งหน้าสู่
ห้องโถงใหญ่ ( The Grand Hall ) ภายในห้องมีโต๊ะอาหารขนาดใหญ่
บนโต๊ะจัดเรียงไปด้วยถ้วยชามจำนวนมาก เหมือนจะมีงานเลี้ยงใหญ่ในคืนนี้
เหนือขึ้นไปเป็นฟลอร์เต้นรำเปล่า โดยในห้องนี้ คืนนี้
จะเกิดปรากฏการณ์ทางวิญญาณ ครั้งใหญ่ขึ้น
ภาพโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยถ้วยชาม
เหมือนจะมีการจัดเลี้ยงขึ้นทันใดก็ปรากฏ ภูต ผี ปีศาจ
จำนวนมากขึ้นภายในห้อง ซักพักก็จางหายไป คืนนี้มีงานเลี้ยงแห่งความตาย(
ด้วยเทคนิคการสร้างภาพเสมือนจริง ( Holograms )
แต่ครั้งนี้ใช้เทคนิคขั้นสูงกว่าครั้งการปรากฏตัวของ มาดามมาดามลีโอทา
ในห้องประชุมทรงกลม เนื่องจากไม่มีวัตถุให้ฉายภาพ
แต่ทางวอล์ท ดีสนีย์ แก้ปัญหาโดยการปล่อยควันไว้ภายในห้อง
แล้วยิงแสงเลเซอร์เข้าใส่ควัน แสงเลเซอร์จะกระทบอนุภาคควัน
เกิดเป็นภาพปีศาจ จำนวนมากขึ้นมา ) บางส่วนใช้เทคนิคที่เรียกว่า Pepper’s
ghost
เป็นเทคนิคสร้างภาพผีที่คิดค้นมาหลายร้อยปีแล้วเหล่าแขกเหรื่อจำนวนมากพลัน
ปรากฏตัวขึ้น เพื่ออวยพรครบรอบวันตายให้แก่ผีชุดสีชมพู
อยู่ออร์แกนก็เริ่มบรรเลงขึ้น ไม่นานก็ปรากฏตัวผีนักดนตรีขึ้น ฟลอร์เต้นรำร้างก็เริ่มปรากฏ เหล่าผีหมุ่มสาว หลายคู่ เต้นรำกันไปมา
12. The Attic
คงต้องรีบหนีกัน
แล้ว หากพวกมันเห็นคุณเข้า เมนูอาหารคงเป็นคุณแน่ๆ
รถดูมบักกี้พาคุณหนีขึ้นไปแอบบนห้องใต้หลังคา ( The Attic )ที่สุดแสนจะรก
และสกปรก เรื่องราวถูกผูกเข้ากับตำนาน ” เจ้าสาวในห้องใต้หลังคา (The Bride
in the Attic) “
ตำนานกล่าวไว้ว่า ย้อนกลับไปนานเท่านาน แต่ไม่นานพอจะให้รักเสื่อมคลาย
กัปตันเกรซีว่าที่เจ้าบ่าว พบว่าเ้จ้าสาวแสนสวย เล่นชู้กับ ชายหนุ่ม
ห้องใต้หลังคา ด้วยความโกรษอย่างที่สุด เกรซีได้ใช้ดาบตัดหัวชายชู้
เจ้าสาวแสนสวยผู้หัวใจสลาย
ก็หนีออกจากงานแต่งงานในวันรุ่งขึ้นทั้งชุดเจ้าสาว
มากระโดดฆ่าตัวตายจากหน้าต่างในห้องใต้หลังคา
กัปตันเกรซีผู้โศกเศร้ากับการจากไปของคนที่รัก ก็มาผูกคอตาย
กับขื่อในห้องใต้หลังคา เป็นการเปิดตำนานรักมรณะ ” เจ้าสาวในห้องใต้หลังคา
“ลักษณะการตกแต่งภายในห้องใต้หลังคาที่ดูรก เต็มไปด้วยสิ่งของมากมาย
ภายในห้องใต้หลังคายังคงมีวิญญาณที่ยังยึดติดในรัก จึงไม่ได้ไปผุดไปเกิดได้
ของเจ้าสาว และเธอก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เพื่อเป็นการยืนยัน?( เช่นเดียวกัน
ผีเจ้าสาวในห้องใต้หลังคา สามารถเคลื่นอไหวได้เหมือนจริง
ด้วยเทคนิคการฉายภาพลงบนหุ่น )
13. The Graveyard Jamboree?
หลังจากหนีออกจากห้องใต้หลังคา จากทางหน้าต่าง
รถดูมบักกี้ก็ค่อยๆไหลถอยหลังตกลงสู่ป่าปีศาจ
(จุดไคลแม็คของการนั่งรถดูมบักกี้คือจุดนี้ที่รถดูมบักกี้ไหลจากหน้าต่างใน
ระดับสูงลงสู่พื้น) คุณสามารถหนีออกจากบ้านผีสิงได้แล้ว
แต่ยังวางใจไม่ได้ต้องหนีให้ไกลที่สุด รถดูมบักกี้จะค่อยๆเคลื่อนต่อไปยัง
ป่าช้าจัมโบรี ( The Graveyard Jamboree ) ผ่านประตูทางเข้าป่าช้า
เมื่อผ่านประตูทางเข้า ป่าช้าจัมโบรี ก็จะพบเข้ากับ สัปเหร่อ
ยืนเคียงข้างกับ สุนัขน่าเกลียด ผอมโซ ตัวหนึ่งต่อมาพบกับการต้อนรับจาก
วงดนตรีผี ที่บรรเลงบทเพลง The Screaming Song ขับขานใน Version ถอยหลัง
( ทั้งวงดนตรีผี สัปเหร่อ และหมา เป็นหุ่นยนต์ ที่สามารถเคลื่นไหวได้เหมือนมีชีวิต )
( ทั้งวงดนตรีผี สัปเหร่อ และหมา เป็นหุ่นยนต์ ที่สามารถเคลื่นไหวได้เหมือนมีชีวิต )
14. Creepy Crypt?
หลังผ่านผีร้าย ในบัญชาของ มาดามลีโอทา ก็จะมุ่งหน้าลงสู่ห้องใต้ดิน
(Creepy Crypt ) นักท่องเที่ยวจะได้พบกับ แก็งค์ผี 4
ตนที่เป็นสัญลักษณ์ของบ้านผีสิงนี้ที่มีชื่อแก็งค์ว่า ” Hitchhiking Ghosts
” ผีทั้ง3 ตนยืนยกนิ้วโป้งเพื่อส่งสัญญาณอะไร หา 3 ตน
แล้วอีกตนหนึ่งหายไปไหน เร็วกว่าความคิด?เพื่อนพวกเอ็ง หายไปไหนตนหนึ่ง
ไม่ต้องมายิ้มเลย
เมื่อมองข้าไปในกระจกตามนิ้วหัวแม่มือของผีทั้งสามตน กับพบว่า
เจ้าผีที่ชื่อว่า Ezra กับมาปรากฏตัวอยู่ในรถดูมบักกี้
คงอยู่ไม่ไหวแล้วคงต้องสละรถดูมบักกี้กันเสียที (
เป็นการผูกเรื่องได้อย่างชาญฉลาดมาก ในการจบทิปเดินทางด้วยรถดูมบักกี้
ทำไม? ก็มีผีในรถจะอยู่หรือก็ต้องลงรถ และเป็นการจบการเดินทาง )
เกริ่นนำและเรียบเรียงโดย teen.mthai
ที่มา?wowboom.com,thaighosttrip.com